กลับไปหน้าเรื่องหมอภูผา
EP.8 · คุยกันข้างลู่ – HRV บนนาฬิกา

คุยกันข้างลู่ – HRV บนนาฬิกา

ตัวเลขจากนาฬิกาไม่ใช่คำตัดสินสุดท้าย แต่เป็นเพื่อนคอยเตือนให้เราฟังร่างกาย

หมอภูผา – ER & HRV นักวิ่งสมัครเล่น / HRV จากนาฬิกา & RMSSD
“อย่าให้ตัวเลขจากข้อมือมากำหนดคุณค่าของชีวิต แต่ให้มันเป็นสัญญาณที่ช่วยให้เราดูแลตัวเองดีขึ้น”
— นพ.ภูผา

บทที่ 1 – เช้าสวนสาธารณะ: สัญญาณจากข้อมือ

เช้าวันเสาร์อากาศเย็นสบาย ลมพัดอ่อนๆ ผมออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งรอบสวนสาธารณะ เป็นช่วงเวลาที่ผมได้ทบทวนเคสต่างๆ และปลดปล่อยความตึงเครียดจากห้องฉุกเฉิน

วิ่งไปไม่กี่รอบ มีเสียงเรียกจากด้านหลัง “หมอภูผา! ผมมีเรื่องอยากถาม” ชายวัยกลางคนในชุดวิ่งสีส้มสดวิ่งมาขนาบข้าง เขายื่นข้อมือที่สวม smartwatch ให้ดู ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

“หมอครับ ปกติ HRV ผมอยู่ 70–80 แต่นี่สองวันเหลือ 25 แล้ววันนี้รู้สึกเพลียๆ ผมควรหยุดซ้อมไหม?”

บทที่ 2 – ไขปริศนา HRV และ RMSSD: เสียงกระซิบจากร่างกาย

ผมหัวเราะเบาๆ “ค่าที่พี่เห็นคือ RMSSD ครับ เป็นค่าหนึ่งของ HRV ซึ่งสะท้อนการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติก เป็นโหมดพักและฟื้นฟูของร่างกาย”

“HRV สูง แปลว่าร่างกายฟื้นตัวดี พร้อมซ้อมหนักต่อได้ แต่ถ้าต่ำลงเรื่อยๆ ก็อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายยังไม่พร้อม หรือกำลังเผชิญความเครียดบางอย่างอยู่”

บทที่ 3 – ปัจจัยที่ทำให้ RMSSD ขึ้นลง: ตัวแปรที่ซับซ้อน

“HRV ไม่ได้ขึ้นกับการซ้อมอย่างเดียวครับ” ผมอธิบายขณะชะลอเป็นการเดิน “อายุ เพศ พันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ ล้วนมีผลหมด”

  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ → เพิ่ม HRV
  • เหล้า บุหรี่ เครียด นอนน้อย → ลด HRV
  • อาหารไม่ครบ พลังงานไม่พอ อดอาหารแบบไม่วางแผน → ทำให้ HRV ต่ำ
  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ → ลดความแปรปรวน
  • สภาพแวดล้อม เช่น อากาศร้อนจัด เย็นจัด เสียงดัง → มีผลต่อ HRV

บทที่ 4 – ตัวเลขวันเดียว ไม่ใช่คำตัดสิน: เมื่อข้อมูลเป็นเพียงส่วนหนึ่ง

ผมบอกเขาว่า “ถ้าต่ำวันเดียว ยังไม่ต้องตกใจครับ อาจนอนน้อยหรือซ้อมหนักเมื่อวาน แต่ถ้าต่ำต่อเนื่องหลายวัน พร้อมอาการเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่น แบบนั้นควรพักและเช็กสุขภาพ”

ผมอธิบายความแตกต่างของอุปกรณ์ด้วย “นาฬิกาเก็บ HRV สั้นๆ เช่น 1–2 นาที หรือคำนวณจากข้อมูลตอนหลับ แต่ในโรงพยาบาลเราวัด 5 นาที หรือ 24 ชั่วโมงด้วย Holter ซึ่งให้ข้อมูลหลายมิติ เช่น LF, HF, LF/HF, SDNN, Total Power ใช้ประเมินความสมดุลระบบประสาทได้ละเอียดกว่ามาก”

บทที่ 5 – บทเรียนข้างลู่: ความสมดุลที่สำคัญกว่าตัวเลข

เขายิ้มโล่งใจ “แสดงว่าผมไม่ต้องตกใจทุกครั้งที่ตัวเลขตกแล้วสินะครับ?”

“ใช่ครับ” ผมยิ้มตอบ “ใช้มันเหมือนเพื่อนเตือนให้ฟังร่างกาย ไม่ใช่ให้มันตัดสินชีวิต”

ก่อนแยกกัน เขายกมือไหว้ “ถ้าไม่ได้หมออธิบาย ผมคงเครียดจนซ้อมไม่ไหวแน่ๆ” ผมเพียงยิ้มตอบ เพราะผมเข้าใจดีว่าตัวเลขคือเพียงส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ สิ่งสำคัญกว่า คือความสามารถของเราที่จะฟังเสียงร่างกายตัวเองให้ชัดเจนขึ้น

บทเรียนที่ผู้อ่านควรจำ

  • HRV จากนาฬิกามักเป็นค่า RMSSD เน้นฟังก์ชันพาราซิมพาเทติก
  • ข้อมูลวันเดียวไม่พอ ต้องดูแนวโน้มหลายวัน
  • หลายปัจจัยกด HRV ลงได้ เช่น เครียด นอนน้อย ซ้อมหนัก อาหารไม่พอ
  • เครื่องมือแพทย์แม่นยำกว่า เพราะให้ข้อมูลหลายมิติ ไม่ใช่ค่าเดียว
  • ใช้ HRV เพื่อฟังร่างกาย ไม่ใช่เพื่อกดดันตัวเอง

จุดเชื่อมตอนถัดไป

หมอโรคไต นายแพทย์ชวิน เดินกลับไป แต่ก่อนพ้นประตู เขาหันกลับมาหาผมอีกครั้ง “หมอครับ…ผมมีเคสหนึ่งอยากให้ช่วยดู ชายวัย 66 ปี ล้มตอนดูข่าวเรื่องลูกชายถูกจับ ไม่มีโรคประจำตัว ทุกอย่างเหมือน panic แต่ก็เหมือนมีอะไรมากกว่านั้น”

ผมพยักหน้าช้าๆ “บางครั้งสิ่งที่จิตใจไม่กล้ารู้… ร่างกายมันบอกออกมาก่อน”